วันที่: 28-02-2013
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการจัดที่ดินในรูปนิคมสหกรณ์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์
► นิคมสหกรณ์คืออะไร
นิคมสหกรณ์ คือ บริเวณที่ดินที่รัฐได้ออกกฏหมายกำหนดขอบเขตพื้นที่แล้วจัดการพัฒนาปรับปรุงที่ดิน ให้เหมาะสมแก่การอยู่อาศัยและประกอบอาชีพการเกษตร จากนั้นจึงจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรที่เดือดร้อนไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีน้อยแต่ไม่พอทำกิน ได้มีที่ดินประกอบอาชีพและตั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งพร้อมกับส่งเสริมให้เกษตรกร รวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์
เมื่อเกษตรกรได้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินทำกินที่ได้รับการจัดสรรและได้ปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดครบถ้วนแล้ว จะได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่รัฐจัดสรรให้
► จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกเพื่อขอรับการจัดสรรที่ดินอย่างไร
ผู้ที่ประสงค์จะขอรับการจัดสรรที่ดินในรูปนิคมสหกรณ์ จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์ ได้ต่อเมื่อทางราชการประกาศให้ราษฎรทราบ และผู้สนใจจะต้องไปยื่นใบสมัครตามแบบที่กำหนดภายในวัน เวลา และ สถานที่ ที่กำหนดไว้ พร้อมกับนัดหมายวัน เวลา และสถานที่ ที่จะคัดเลือกสมาชิก โดยผู้ที่จะทำการคัดเลือก คือ คณะกรรมการซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีสัญชาติไทยและเป็นเกษตรกร
2. มีความประพฤติและเต็มใจปฎิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กำหนด
3. ขยันขันแข็ง มีร่างกายสมบูรณ์และสามารถประกอบอาชีพได้
4. ไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
5. ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง หรือมีน้อยไม่พอแก่การครองชีพ
6. มีคุณสมบัติถูกต้องตามกฏหมายว่าด้วยสหกรณ์
เมื่อคณะกรรมการ ฯ ได้คัดเลือกผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์แล้วจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกให้ทราบ และจะเรียกให้เข้ารับการศึกษาอบรมให้รับทราบ กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดที่ดิน หลักและ วิธีการสหกรณ์ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก ตลอดจนแผนประกอบอาชีพการเกษตร หลังจากนั้นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์จะอาศัยอำนาจตามมาตรา 8 แห่ง พระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 อนุญาตให้สมาชิกนิคมฯ เข้าอยู่อาศัยและทำประโยชน์ในที่ดินที่ทางราชการจัดสรรให้ไม่เกินครอบครัวละ 50 ไร่ พร้อมส่งเสริมให้สมาชิก รวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์ตามกฏหมายว่าด้วยสหกรณ์
► ทำอย่างไรจึงได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
สมาชิกนิคมสหกรณ์จะได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินเมื่อได้ปฎิบัติตามข้อกำหนดครบถ้วนดังนี้
1. เป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี
2. ได้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินจัดสรรครบถ้วนแล้ว
3. ได้ชำระเงินค่าช่วยทุนรัฐบาล หรือชำระเงินค่าเช่าซื้อที่ดินครบถ้วนตามสัญญา
4. ชำระหนี้เกี่ยวกับกิจการของนิคม และหนี้เงินกู้ระยะยาวของสหกรณ์หมดแล้ว
5. สหกรณ์ที่สมาชิกนั้นสังกัดอยู่ได้ให้ความเห็นชอบที่จะให้กรรมสิทธิ์ที่ดินกับสมาชิกรายนั้น ๆ ได้
สำหรับสมาชิกที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินไปแล้วนั้น ยังมีข้อผูกพันห้ามไม่ไห้สมาชิกจำหน่ายจ่ายโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ให้กับผู้อื่นมีกำหนดเวลา 5 ปี นอกจากตกทอดทางมรดกแก่ทายาท หรือโอนให้กับสหกรณ์ที่สมาชิกสังกัดอยู่ และ ภายในกำหนดเวลา 5 ปีนี้ ที่ดินนั้นไม่อยู่ในความรับผิดชอบแห่งการบังคับคดี
ขณะเดียวกัน สมาชิกผู้หนึ่งผู้ใดไม่ปฏิบัติดังต่อไปนี้ จะถูกสั่งให้ออกจากนิคมสหกรณ์
1. ไม่ใช้ที่ดินทำประโยชน์ตามระเบียบที่อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กำหนด
2. ไม่ชำระเงินค่าช่วยทุนรัฐบาลและค่าเช่าซื้อที่ดินหรือค่าเช่าที่ดิน
3. ออกจากนิคมสหกรณ์เกินกว่า 6 เดือน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
4. ถูกไล่ออกจากสมาชิกสหกรณ์ที่สังกัดอยู่
► ประโยชน์ที่สมาชิกนิคมสหกรณ์จะได้รับ
1. สมาชิกมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง
2. มีอาชีพที่มั่นคง
3. มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
4. มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
5. มีสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
คัดลอกจากเอกสารการอบรมโครงการจัดที่ดินทำกินให้กับสมาชิก
มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อ 18 เมษายน 2540
|
|
|